6 ข้อควรรู้ก่อนตินใจซื้อเปียโนอะคูสติก

By: Peterson Siulhumvit#26

  1. เสียงและลักษณะของเสียง

ไม่ว่าจะเป็นเปียโนหลังใด ยี่ห้อใด คุณจะต้องลองเล่นก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าคุณชอบเสียงเปียโนหลังนั้นจริงๆไหม? คุณอาจเล่นเอง หรือให้คนอื่นเล่นให้ และคุณยืนฟังในตำแหน่งต่างๆของห้องก็ได้ ลักษณะเสียงเปียโนเป็นความชอบส่วนบุคคล ซึ่งแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน บางคนอาจชอบเสียงเปียโนที่ใส และชัดเจน ในขณะที่บางคนอาจชอบเปียโนที่มีโทนเสียงที่ทุ้ม หนา และดังกังวาล เราขอแนะนำให้คุณรับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่มีความชำนาญในการฟัง โดยเฉพาะจากครูสอนเปียโนที่มีประสบการณ์ เนื่องจากการฟังเป็นทักษะอย่างหนึ่งซึ่งต้องอาศัยเวลาและความคุ้นเคย ดังนั้นคุณอาจจำเป็นต้องสละเวลาหลายๆชั่วโมงหรือหลายๆวันไปกับการเล่นเปรียบเทียบเปียโนหลายๆยี่ห้อ หรือหลายๆรุ่น เมื่อคุณเลือกยี่ห้อและรุ่นที่ชอบได้แล้ว หากเปียโนมีให้เลือกมากกว่า 1 หลัง ท่านยังต้องใช้เวลาเพื่อคุณจะได้เปียโนหลังที่คุณชอบมากที่สุด โดยเปรียบเทียบจากความกลมกลืนของเสียง ความสม่ำเสมอของเสียง ระหว่างที่คุณเล่นทุกคีย์จากเสียงต่ำไปเสียงสูงทีละคีย์ โดยเล่นด้วยแรงที่เท่ากันและรับฟังลักษณะของเสียง ความดัง และความสม่ำเสมอของเสียง



คุณภาพของเสียงเปียโน และลักษณะของเสียงเปียโน ขึ้นกับองค์ประกอบอะไรบ้าง?

ขนาดความสูง หรือความยาวของเปียโน คุณภาพของวัสดุที่ใช้ทำเปียโน และโครงสร้างโดยรวมของเปียโน ล้วนมีผลต่อลักษณะของเสียงเปียโนทั้งสิ้น


ความไพเราะของเสียงเปียโน และระดับความดังของเสียงเปียโนแต่ละหลังแปรผันโดยตรงกับขนาดของซาวน์บอร์ดและความยาวของสาย  เปียโนอัพไลท์หลังที่สูงกว่า หรือแกรนด์เปียโนหลังที่ยาวกว่าจะมีซาวน์บอร์ดที่ใหญ่และมีสายเปียโนที่ยาวกว่า และจะให้เสียงที่ทรงพลังและสมบูรณ์มากกว่า เปียโนอัพไลท์แต่ละหลังมีเอกลักษณ์ของเสียงที่แตกต่างไม่ซ้ำกัน แม้แต่เปียโนใหม่รุ่นเดียวกันสองหลังก็อาจมีเสียงที่ไม่เหมือนกัน เพราะวัสดุและส่วนประกอบที่ใช้ทำเปียโนจำนวนมากทำมาจากวัสดุธรรรมชาติ และช่างแต่ละคนมีเทคนิคการปรับเสียงที่หัวค้อนแตกต่างไม่เหมือนกัน

 

วัสดุคุณภาพดี อย่าง Merino wool (เป็นสักหลาดเกรดดีที่ทำจากไหมเส้นละเอียดและมีความนุ่ม) หากนำมาทำหัวค้อนเปียโนจะทำให้เปียโนมีเสียงที่เพราะขึ้น ในทำนองเดียวกันหากเลือกใช้สายเปียโนที่มีคุณภาพดี เสียงเปียโนก็จะดีขึ้น ลักษณะของเสียงเปียโนมักจะใช้คำอธิบาย ดังนี้ เสียงทุ้ม และนุ่ม’ (mellow)  ‘เสียงปานกลางไม่ทุ้มและไม่แหลม’(medium) ‘เสียงใส แหลม’ (bright) อย่างไรก็ตาม เราสามารถปรับแต่งลักษณะของเสียงได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล เช่น เมื่อเสียงแหลมหรือใสเกินไป เราสามารถลดความแน่นของหัวค้อน ด้วยเข็มปรับเสียงแต่งหัวค้อนเล็กน้อย หรือในทางตรงกันข้าวเราสามารถใช้น้ำยาทาที่หัวค้อนเพื่อปรับให้เสียงแหลมขึ้น เมื่อเปียโนมีเสียงทุ้ม และนุ่มเกินไป พึงระลึกเสมอว่า เปียโนแต่ละหลังจะมีเสียงต่างกันตามลักษณะของห้องและสิ่งของที่อยู่ภายในห้องด้วย ดังนั้นหลังจากติดตั้งเปียโน หากท่านตัดสินใจจะปรับแต่งเสียงเปียโนให้เข้ากับห้องที่วาง  ท่านควรปล่อยให้เปียโนปรับตัวให้เข้ากับห้องที่ท่านวางอย่างน้อย 6 เดือนก่อนที่จะให้ช่างมาปรับแต่งเสียง

 


2. ทัชชิ่ง หรือ สัมผัสของคีย์เปียโน

ทัชชิ่ง หรือ สัมผัส เป็นเรื่องของความชอบเฉพาะบุคคล (เช่นเดียวกับลักษณะของเสียงแม้ว่า โทนเสียงและสัมผัสจะไม่เกี่ยวข้องกันเลย แต่ในทางจิตวิทยานั้น ทั้งสองถูกเชื่อมโยงเข้าหากัน เปียโนที่มีเสียงแหลม เมื่อเล่นจะให้ความรู้สึกเหมือนว่าเปียโนหลังนั้นมีสัมผัสที่เบากว่าเสมอ เพราะผู้เล่นจะใช้แรงกดที่น้อยกว่าเพื่อให้ได้เสียงที่ดังเท่ากับเปียโนที่มีเสียงทุ้ม ดังนั้นท่านจึงควรลองเล่นเปียโนให้ได้มากที่สุด เพราะทัชชิ่งของเปียโนแต่ละหลังจะไม่เหมือนกันเลย 

 

เปียโนที่ทัชชิ่งหนัก หมายถึง กลไกของเปียโนหลังนั้นจะให้แรงต้านที่มากกว่า และมีการเด้งกลับคืนของคีย์ที่ช้ากว่า เมื่อเทียบกับกลไกที่เบากว่า  อย่างไรก็ตามเปียโนที่มีทัชชิ่งหนักมักจะดีสำหรับการฝึกเพื่อพัฒนาเทคนิค และการฝีกเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของนิ้ว  ทัชชิ่งของเปียโนอัพไลท์สามารถปรับได้จากการปรับแต่งกลไก (Regulation) โดยการปรับความลึกของคีย์ (Key depth), การปรับ set off และการปรับ check-off การปรับน้ำหนักคีย์แบบจริงจังมากกว่านั้นทำได้จากการเพิ่มหรือลดน้ำหนักของตะกั่วที่ถ่วงในคีย์เปียโนอออก  น้ำหนักเฉลี่ยที่กดให้คีย์เปียโนเคลื่อนที่ลง (average down-weight) คือ 50-55 กรัม และน้ำหนักเฉลี่ยที่กดให้คีย์เปียโนเคลื่อนที่ขึ้น คือ 20-25  กรัม  กล่าวโดยสรุป สัมผัสและการตอบสนองของคีย์เปียโนเป็นความชอบส่วนบุคคล และเปียโนอคูสติกสามารถปรับทัชชิ่ง ให้ได้ตามความชอบของแต่ละบุคคล


คุณจึงตรวจสอบให้แน่ใจว่าคีย์ของเปียโนที่คุณจะเลือกซื้อ มีผิวที่เรียบและไม่มีความเสียหายและรอยแตก และเมื่อคุณเล่นเปียโน คีย์ควรมีความต้านทานที่เพียงพอ หากการเล่นใช้แรงเพียงเล็กน้อยเช่นเดียวกับการพิมพ์บนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ นั่นแปลว่าเปียโนหลังนั้นมีความต้านทานน้อยเกินไป



 3. ตำแหน่งที่คุณจะวางเปียโน
ถ้าคุณมีพื้นที่น้อยที่จะวางเปียโน คุณก็มีความจำเป็นต้องเลือกเปียโนอัพไรท์เท่านั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดอีกประการ คือ การเลือกตำแหน่งที่จะวางเปียโน จุดใดของบ้านหรือของที่ทำงานของคุณที่ควรวางเปียโน เปียโนอะคูสติกทุกยี่ห้อ ทุกรุ่น ล้วน sensitive ต่อความชื้นและอุณหภูมิที่ผันผวน ดังนั้นจึงไม่ควรวางเปียโนไว้ใกล้จุดที่มีแสงแดดส่องถึงโดยตรง หรือไม่ควรวางเปียโนในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หากคุณวางเปียโนไว้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี ส่วนประกอบของเปียโนอะคูสติกโดยเฉพาะชิ้นส่วนที่ทำจากไม้และผ้าสักหลาดจะได้รับผลกระทบ (ตามหลักการแล้วเปียโนอะคูสติกของคุณควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสัมพัทธ์ระหว่าง 45% ถึง 70% และมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 20˚Cหรืออุณหภูมิห้อง)


 4. ระยะเวลาในการรับประกัน

สำหรับสินค้าชิ้นใหญ่เช่นเปียโนอะคูสติกการรับประกันถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เปียโนใหม่ส่วนใหญ่มีการรับประกันอย่างน้อย 5 ปี และคุณควรเลือกซื้อเปียโนจากร้านขายเปียโนที่มีชื่อเสียงดี เชื่อถือได้ และที่สำคัญต้องมีช่างที่มีรู้ความสามารถในการซ่อม และดูแลรักษาเปียโนเท่านั้น

 5. แบรนด์
มีเปียโนอะคูสติกหลากหลายยี่ห้อ ที่ผลิตในยุโรป และเอเซียที่มีโทนเสียงที่ไพเราะ มีทัชชิ่งที่เล่นง่าย ที่ผู้เล่นสามารถถ่ายทอดอารมณ์ระหว่างการเล่นได้อย่างดี เปียโนเหล่านี้ได้รับการออกบบ มาแตกต่างกัน  แต่ล้วนเป็นเปียโนที่มีคุณภาพดี และได้รับความเชื่อถือมาอย่างต่อเนื่อง คุณควรลองเล่นและเปืดใจกับเปียโนที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น เมื่อคุณเลือกซื้อเปียโน เพื่อจะต้องเสียดายภายหลังหากได้พบว่ามีเปียโนหลังอื่นที่ท่านชอบมากกว่า

 6. ควรเลือกซื้อเปียโนใหม่ หรือ เปียโนเก่า ?

เปียโนอะคูสติกที่ให้เสียงดีมักจะมีราคาแพง ดังนั้นเปียโนมือสองจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณไม่มาก

สำหรับคำถามนี้ แต่ละคนอาจมีคำตอบที่เหมาะสมที่ไม่เหมือนกัน และเราแนะนำอย่างยิ่งให้คุณมองหาเปียโนมือสองรุ่นเดียวกันที่มีสภาพดีก่อนที่ท่านจะเลือกซื้อเปียโนใหม่ เพราะการซื้อเปียโนมือสองจะช่วยท่านให้ประหยัดเงินอย่างมาก ในกรณีของเปียโนอะคูสติคมือสอง คุณภาพเสียงมักจะเหมาะกับสภาวะแวดล้อมแบบเดิมมากกว่าเปียโนใหม่ เพราะซาว์นบอร์ดของเปียโนมือสองมีอายุมากกว่า และสิ่งสำคัญอีกประการคือ ท่านต้องขอประวัติเปียโนเสมอเมื่อท่านเลือกซื้อเปียโนมือสอง และหากเปียโนหลังนั้นเคยได้รับการซ่อมมา ท่านควรทราบก่อนว่าเปียโนหลังนั้นเคยซ่อมส่วนใดมาบ้าง พึงระลึกเสมอว่าเปียโนจะด้อยค่าลงอย่างมาก หากไม่ได้ใช้อะไหล่แท้จากโรงงานของผู้ผลิต สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อท่านเลือกซื้อเปียโนยามาฮ่าที่ผ่านการซ่อมมาแล้ว (refurbished Yamaha instruments)


โดยทั่วไปเปียโนมือสองเป็นตัวเลือกที่ดีหาก เปียโนหลังนั้นได้รับการดูแล และถูกวางไว้ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดดาวน์โหลด Buyer’s Guide ของเรา

 

ข้อดีของเปียโนใหม่ 

• ไม่มีตำหนิ และรอยขนแมว

• ส่วนประกอบภายใน อยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบ 

• อคูสติคเปียโน จะปรับตามสไตล์การเล่นของท่าน เมื่อเวลาผ่านไป 

• อยู่ในระยะเวลารับประกันจากโรงงานผู้ผลิต

 

ข้อดีของเปียโนมือสอง 

 คุ้มค่ากับเงินที่คุณจะต้องจ่ายไป - ซึ่งช่วยประหยัดเงินให้คุณได้อย่างมาก เมื่อเทียบกับการซื้อเปียโนใหม่

• เสียงของเปียโนอคูสติคจะดีขั้น เมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากซาวน์บอร์ดมีอายุมากขึ้น 

• มีมูลค่าคงเหลือที่มากกว่า เพราะไม่มีการเสื่อมราคาในช่วงต้นแล้ว 

• มีเสถียรภาพของการจูนมากกว่า

 

สิ่งสำคัญเมื่อท่านซื้อเปียโนมือสอง คือ ท่านต้องมั่นใจว่าการซ่อมที่ผ่านมา ต้องซ่อมโดยใช้อะไหล่แท้ 100% เท่านั้น มีเพียงตัวแทนจำหน่ายเปียโนยี่ห้อนั้นเท่านั้นที่สามารถสั่งซื้ออะไหล่แท้จากโรงงานได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะการใช้อะไหล่ปลอมไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของเปียโนหลังนั้น แต่ยังทำให้ราคาขายต่อตกลงอย่างมาก และทำให้เปียโนหลังนั้นกลายเป็นเปียโนที่ไม่มีคนต้องการ